เพียงลอดรั้วอนุบาลสู่ประถม...โลกของหนูก็เปลี่ยนไป
บรรยากาศของห้องเรียนที่มีของเล่นหรือเกมการเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการตามมุมหรือศูนย์การเรียนต่างๆ ก็หายไป อาจเหลือเพียงชั้นเล็กๆ สำหรับวางหนังสือหรือเกมการศึกษาเพียงไม่กี่เกม ที่สำคัญเวลาที่จัดไว้สำหรับการเล่นอิสระในห้องเรียนก็กลายเป็นตารางเรียนสาระวิชาต่างๆ เพราะการเรียนในระดับประถมนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเรียนเป็นรายวิชา ซึ่งต่างจากการเรียนระดับอนุบาลที่เป็นการเรียนแบบบูรณาการ และยังถือว่าการเล่นเสรีเป็นกิจกรรมสำคัญหนึ่งในหกกิจกรรมหลักของอนุบาลทีเดียวค่ะ นอกจากนี้การเรียนในวัยอนุบาลยังเน้นที่เรียนรู้ผ่านการเล่นและการทำกิจกรรม รูปแบบการเรียนจึงทำให้ชีวิตลูกน้อยเปลี่ยนไปมากทีเดียว แถมยังมีการบ้านและใบงานแบบจริงจังกลับมาให้ทำแทบทุกวัน
เรื่องของคุณครูก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่กระทบต่อตัวหนูมาก เพราะลูกน้อยต้องพบกับครูมากหน้าหลายตามาสอนวิชาต่างๆ แต่ละคนก็ไม่สามารถจะรู้จักรู้ใจลูกเหมือนครูประจำชั้นอนุบาล ที่ทั้งสอน ทั้งช่วยดูแลสารทุกข์สุขดิบในทุกเรื่องของลูก เรื่องเพื่อนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อลูกมากขึ้น เพราะวัยนี้ลูกเริ่มมีเพื่อนสนิท และจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ยังไม่ใช่กลุ่มที่คบกันถาวรแบบเด็กที่โตกว่านี้ ยังมีการเปลี่ยนสลับกันไปมา ถ้าลูกปรับตัวยากก็จะรู้สึกเหงา ไม่รู้จะเข้ากลุ่มได้อย่างไร
ช่วงรอยต่อระหว่างอนุบาลกับประถม ถือเป็นเรื่องสำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจ เพราะหากปรับตัวได้ช้า ปัญหาทางอารมณ์ความรู้สึกก็จะส่งผลกระทบต่อการเรียนของลูกไปด้วย คงเห็นด้วยนะคะว่าหากใจลูกไม่เป็นสุขก็ยากที่การเรียนรู้จะเป็นไปด้วยดี คราวนี้ปัญหาของลูกก็จะซับซ้อนขึ้นค่ะ เรียนไม่ทันเพื่อนก็ทำลูกขาดความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง สูญเสียความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง เรียกว่าแพ้ใจตัวเองตั้งแต่ยกแรกทีเดียวค่ะ
ที่มาของบทความ : อ.ธิดา พิทักษ์สินสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาสำหรับเด็ก และกรรมการบริหารสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ
เผยแพร่โดย นางรัชนี สมภารจันทร์ ครูผู้สอนปฐมวัย โรงเรียนหมู่บ้านสหกรณ์ 2
เข้าชม :
2845 [ ขึ้นบน ]
|